Difference between revisions of "TTMIK ระดับ 1 ระดับ1 บทที่ 11"
Piggyrabbit (Talk | contribs) |
Piggyrabbit (Talk | contribs) |
||
(3 intermediate revisions by one user not shown) | |||
Line 1: | Line 1: | ||
− | บทนี้เราจะมาเรียนกันว่าจะถามว่า "คุณมี.....ไหม" หรือ "มี....ไหม" และ จะพูดว่า "ขอ.....ให้ฉันหน่อย" หรือ "ฉันอยากจะได้......." กันอย่างไร | + | บทนี้เราจะมาเรียนกันว่าจะถามว่า "คุณมี.....ไหม" หรือ "มี....ไหม" และ จะพูดว่า "ขอ.....ให้ฉันหน่อย" หรือ "ฉันอยากจะได้......." กันอย่างไร<br /> |
จำกันได้ไหมว่าจะพูดว่า "ฉันมี...." "เธอมี...." หรือ "มี....." อย่างไร | จำกันได้ไหมว่าจะพูดว่า "ฉันมี...." "เธอมี...." หรือ "มี....." อย่างไร | ||
− | 있어요. [i-sseo-yo] = "ฉันมี...." "เธอมี...." "มี....." | + | 있어요. [i-sseo-yo] = "ฉันมี...." "เธอมี...." "มี....."<br /> |
없어요. [eop-seo-yo] = "ฉันไม่มี..." "เธอไม่มี...." "ไม่มี....." | 없어요. [eop-seo-yo] = "ฉันไม่มี..." "เธอไม่มี...." "ไม่มี....." | ||
− | ตัวอย่าง | + | '''ตัวอย่าง'''<br /> |
− | 사과 [sa-gwa] = แอปเปิ้ล | + | *사과 [sa-gwa] = แอปเปิ้ล |
− | 사과 있어요 [sa-gwa i-sseo-yo] = ฉันมีแอปเปิ้ล มีแอปเปิ้ล พวกเขามีแอปเปิ้ล | + | *사과 있어요 [sa-gwa i-sseo-yo] = ฉันมีแอปเปิ้ล มีแอปเปิ้ล พวกเขามีแอปเปิ้ล |
− | 사과 없어요 [sa-gwa eop-seo-yo] = ฉันไม่มีแอปเปิ้ล ไม่มีแอปเปิ้ล | + | *사과 없어요 [sa-gwa eop-seo-yo] = ฉันไม่มีแอปเปิ้ล ไม่มีแอปเปิ้ล |
− | 오렌지 [o-ren-ji] = ส้ม | + | *오렌지 [o-ren-ji] = ส้ม |
− | 오렌지 있어요 [o-ren-ji i-sseo-yo] = ฉันมีส้ม มีส้ม | + | *오렌지 있어요 [o-ren-ji i-sseo-yo] = ฉันมีส้ม มีส้ม |
− | 오렌지 없어요 [o-ren-ji eop-seo-yo] = ฉันไม่มีส้ม ไม่มีส้ม | + | *오렌지 없어요 [o-ren-ji eop-seo-yo] = ฉันไม่มีส้ม ไม่มีส้ม |
− | ทีนี้ ถ้าเราอยากจะถามใครบางคนว่ามีหรือไม่มีสิ่งใดสิ่งอยู่ เราก็แค่ลงท้ายประโยคด้วยเสียงสูง ก็จะกลายเป็นประโยคคำถามขึ้นมา | + | === ทีนี้ ถ้าเราอยากจะถามใครบางคนว่ามีหรือไม่มีสิ่งใดสิ่งอยู่ เราก็แค่ลงท้ายประโยคด้วยเสียงสูง ก็จะกลายเป็นประโยคคำถามขึ้นมา === |
− | 있어요? [i-sseo-yo] = มี....ไหม เธอมี....ไหม | + | *있어요? [i-sseo-yo] = มี....ไหม เธอมี....ไหม |
− | 없어요? [eop-seo-yo] = เธอไม่มี.....เหรอ ไม่มี.....เหรอ | + | *없어요? [eop-seo-yo] = เธอไม่มี.....เหรอ ไม่มี.....เหรอ |
− | ตัวอย่าง | + | '''ตัวอย่าง'''<br /> |
− | 사과 있어요 [sa-gwa i-sseo-yo] = ฉันมีแอปเปิ้ล มีแอปเปิ้ล | + | *사과 있어요 [sa-gwa i-sseo-yo] = ฉันมีแอปเปิ้ล มีแอปเปิ้ล |
− | 사과 있어요? [sa-gwa i-sseo-yo] = เธอมีแอปเปิ้ลไหม | + | *사과 있어요? [sa-gwa i-sseo-yo] = เธอมีแอปเปิ้ลไหม |
− | 사과 없어요? [sa-gwa i-sseo-yo] = เธอไม่มีแอปเปิ้ลเหรอ ไม่มีแอปเปิ้ลเหรอ | + | *사과 없어요? [sa-gwa i-sseo-yo] = เธอไม่มีแอปเปิ้ลเหรอ ไม่มีแอปเปิ้ลเหรอ |
ลองมาดูตัวอย่างโดยการใช้คำนามคำอื่นๆ กันบ้าง | ลองมาดูตัวอย่างโดยการใช้คำนามคำอื่นๆ กันบ้าง | ||
− | 시간 [si-gan] = เวลา | + | *시간 [si-gan] = เวลา |
− | 시간 있어요? [si-gan i-sseo-yo?] = เธอพอจะมีเวลาไหม | + | *시간 있어요? [si-gan i-sseo-yo?] = เธอพอจะมีเวลาไหม |
− | 시간 없어요? [si-gan eop-seo-yo?] = เธอไม่มีเวลาเหรอ | + | *시간 없어요? [si-gan eop-seo-yo?] = เธอไม่มีเวลาเหรอ |
− | 커피 [keo-pi] = กาแฟ | + | *커피 [keo-pi] = กาแฟ |
− | 커피 있어요? [keo-pi i-sseo-yo?] = เธอมีกาแฟไหม | + | *커피 있어요? [keo-pi i-sseo-yo?] = เธอมีกาแฟไหม |
− | 커피 없어요? [keo-pi eop-seo-yo?] = เธอไม่มีกาแฟเหรอ | + | *커피 없어요? [keo-pi eop-seo-yo?] = เธอไม่มีกาแฟเหรอ |
เอาล่ะ พอเรารู้ว่าใครมีอะไรหรือไม่มีอะไร เราอาจจะอยากขอสิ่งๆ นั้นจากเขาเช่นกัน เราจะพูดว่า "ขอ...ฉันหน่อยสิ" หรือ "ฉันอยากจะได้.......อ่ะ" | เอาล่ะ พอเรารู้ว่าใครมีอะไรหรือไม่มีอะไร เราอาจจะอยากขอสิ่งๆ นั้นจากเขาเช่นกัน เราจะพูดว่า "ขอ...ฉันหน่อยสิ" หรือ "ฉันอยากจะได้.......อ่ะ" | ||
+ | |||
+ | == 주세요 [ ju-se-yo] = ขอ.....ให้ฉันหน่อยสิ/ได้ไหม == | ||
+ | |||
+ | 주세요 [ ju-se-yo] มาจากคำกริยา 주다 [ ju-da] แปลว่า "ให้" ดังนั้นถ้าแปลตรงตัว 주세요 จะแปลว่า "ขอ....ให้หน่อยได้ไหม" แบบสุภาพไม่ว่าจะพูดกับใครหรือใครพูด | ||
+ | |||
+ | '''ตัวอย่าง'''<br /> | ||
+ | A: 사과 있어요? [sa-gwa i-sseo-yo?] = เธอมีแอปเปิ้ลไหม<br /> | ||
+ | B: 네. 사과 있어요. [ne. sa-gwa i-sseo-yo] = มี ฉันมีแอปเปิ้ล<br /> | ||
+ | A: 사과 주세요. [sa-gwa ju-se-yo.] = งั้น ขอแอปเปิ้ลให้ฉันหน่อยได้ไหม<br /> | ||
+ | |||
+ | ** จำไว้ว่าคำนามในภาษาเกาหลีไม่มีความแตกต่างของรูปเอกพจน์และพหูพจน์ | ||
+ | |||
+ | A: 커피 있어요? [keo-pi i-sseo-yo?] = เธอมีกาแฟไหม<br /> | ||
+ | B: 아니요. 커피 없어요. [an-i-yo. keo-pi eop-seo-yo] = ไม่มี ฉันไม่มีกาแฟ<br /> | ||
+ | A: 우유 있어요? [u-yu i-sseo-yo?] = เธอมีนมไหม<br /> | ||
+ | B: 네. 우유 있어요. [ne. u-yu i-sseo-yo.] = มี ฉันมีนม<br /> | ||
+ | A: 우유 주세요. [u-yu ju-se-yo.] = งั้น ขอนมให้ฉันหน่อยสิ/ได้ไหม | ||
+ | |||
+ | 주세요 [ ju-se-yo] สามารถใช้ได้ในหลายสถานการณ์ ใช้ได้ในเวลาที่ต้องการขอให้ใครหยิบหรือส่งของให้ ใช้เมื่อเวลาสั่งอาหารที่ร้าน ใช้เวลาขอดูของในร้านขายของ หรือถ้าใช้กับคำกริยา (เราจะเรียนเรื่องนี้ในบทต่อๆไป) จะเป็นการขอให้ใครทำอะไรบางอย่างให้เรา | ||
+ | |||
+ | '''ตัวอย่าง''' | ||
+ | *아이스크림 주세요 [a-i-seu-keu-rim ju-se-yo] = ฉันขอไอศครีมค่ะ | ||
+ | *햄버거 주세요 [haem-beo-geo ju-se-yo] = ฉันขอแฮมเบอร์เกอร์ | ||
+ | *김치 주세요 [gim-chi ju-se-yo] = ขอกิมจิให้ฉันหน่อย | ||
+ | *불고기 주세요 [bul-go-gi ju-se-yo] = ขอบูลโกกิให้ฉันหน่อย | ||
+ | *밥 주세요 [bap ju-se-yo] = ขอข้าวให้ฉันหน่อย ฉันขอของกินหน่อย |
Latest revision as of 16:04, 23 December 2011
บทนี้เราจะมาเรียนกันว่าจะถามว่า "คุณมี.....ไหม" หรือ "มี....ไหม" และ จะพูดว่า "ขอ.....ให้ฉันหน่อย" หรือ "ฉันอยากจะได้......." กันอย่างไร
จำกันได้ไหมว่าจะพูดว่า "ฉันมี...." "เธอมี...." หรือ "มี....." อย่างไร
있어요. [i-sseo-yo] = "ฉันมี...." "เธอมี...." "มี....."
없어요. [eop-seo-yo] = "ฉันไม่มี..." "เธอไม่มี...." "ไม่มี....."
ตัวอย่าง
- 사과 [sa-gwa] = แอปเปิ้ล
- 사과 있어요 [sa-gwa i-sseo-yo] = ฉันมีแอปเปิ้ล มีแอปเปิ้ล พวกเขามีแอปเปิ้ล
- 사과 없어요 [sa-gwa eop-seo-yo] = ฉันไม่มีแอปเปิ้ล ไม่มีแอปเปิ้ล
- 오렌지 [o-ren-ji] = ส้ม
- 오렌지 있어요 [o-ren-ji i-sseo-yo] = ฉันมีส้ม มีส้ม
- 오렌지 없어요 [o-ren-ji eop-seo-yo] = ฉันไม่มีส้ม ไม่มีส้ม
ทีนี้ ถ้าเราอยากจะถามใครบางคนว่ามีหรือไม่มีสิ่งใดสิ่งอยู่ เราก็แค่ลงท้ายประโยคด้วยเสียงสูง ก็จะกลายเป็นประโยคคำถามขึ้นมา
- 있어요? [i-sseo-yo] = มี....ไหม เธอมี....ไหม
- 없어요? [eop-seo-yo] = เธอไม่มี.....เหรอ ไม่มี.....เหรอ
ตัวอย่าง
- 사과 있어요 [sa-gwa i-sseo-yo] = ฉันมีแอปเปิ้ล มีแอปเปิ้ล
- 사과 있어요? [sa-gwa i-sseo-yo] = เธอมีแอปเปิ้ลไหม
- 사과 없어요? [sa-gwa i-sseo-yo] = เธอไม่มีแอปเปิ้ลเหรอ ไม่มีแอปเปิ้ลเหรอ
ลองมาดูตัวอย่างโดยการใช้คำนามคำอื่นๆ กันบ้าง
- 시간 [si-gan] = เวลา
- 시간 있어요? [si-gan i-sseo-yo?] = เธอพอจะมีเวลาไหม
- 시간 없어요? [si-gan eop-seo-yo?] = เธอไม่มีเวลาเหรอ
- 커피 [keo-pi] = กาแฟ
- 커피 있어요? [keo-pi i-sseo-yo?] = เธอมีกาแฟไหม
- 커피 없어요? [keo-pi eop-seo-yo?] = เธอไม่มีกาแฟเหรอ
เอาล่ะ พอเรารู้ว่าใครมีอะไรหรือไม่มีอะไร เราอาจจะอยากขอสิ่งๆ นั้นจากเขาเช่นกัน เราจะพูดว่า "ขอ...ฉันหน่อยสิ" หรือ "ฉันอยากจะได้.......อ่ะ"
주세요 [ ju-se-yo] = ขอ.....ให้ฉันหน่อยสิ/ได้ไหม
주세요 [ ju-se-yo] มาจากคำกริยา 주다 [ ju-da] แปลว่า "ให้" ดังนั้นถ้าแปลตรงตัว 주세요 จะแปลว่า "ขอ....ให้หน่อยได้ไหม" แบบสุภาพไม่ว่าจะพูดกับใครหรือใครพูด
ตัวอย่าง
A: 사과 있어요? [sa-gwa i-sseo-yo?] = เธอมีแอปเปิ้ลไหม
B: 네. 사과 있어요. [ne. sa-gwa i-sseo-yo] = มี ฉันมีแอปเปิ้ล
A: 사과 주세요. [sa-gwa ju-se-yo.] = งั้น ขอแอปเปิ้ลให้ฉันหน่อยได้ไหม
- จำไว้ว่าคำนามในภาษาเกาหลีไม่มีความแตกต่างของรูปเอกพจน์และพหูพจน์
A: 커피 있어요? [keo-pi i-sseo-yo?] = เธอมีกาแฟไหม
B: 아니요. 커피 없어요. [an-i-yo. keo-pi eop-seo-yo] = ไม่มี ฉันไม่มีกาแฟ
A: 우유 있어요? [u-yu i-sseo-yo?] = เธอมีนมไหม
B: 네. 우유 있어요. [ne. u-yu i-sseo-yo.] = มี ฉันมีนม
A: 우유 주세요. [u-yu ju-se-yo.] = งั้น ขอนมให้ฉันหน่อยสิ/ได้ไหม
주세요 [ ju-se-yo] สามารถใช้ได้ในหลายสถานการณ์ ใช้ได้ในเวลาที่ต้องการขอให้ใครหยิบหรือส่งของให้ ใช้เมื่อเวลาสั่งอาหารที่ร้าน ใช้เวลาขอดูของในร้านขายของ หรือถ้าใช้กับคำกริยา (เราจะเรียนเรื่องนี้ในบทต่อๆไป) จะเป็นการขอให้ใครทำอะไรบางอย่างให้เรา
ตัวอย่าง
- 아이스크림 주세요 [a-i-seu-keu-rim ju-se-yo] = ฉันขอไอศครีมค่ะ
- 햄버거 주세요 [haem-beo-geo ju-se-yo] = ฉันขอแฮมเบอร์เกอร์
- 김치 주세요 [gim-chi ju-se-yo] = ขอกิมจิให้ฉันหน่อย
- 불고기 주세요 [bul-go-gi ju-se-yo] = ขอบูลโกกิให้ฉันหน่อย
- 밥 주세요 [bap ju-se-yo] = ขอข้าวให้ฉันหน่อย ฉันขอของกินหน่อย