Difference between revisions of "TTMIK ระดับ 1 ระดับ1 บทที่ 21"
Piggyrabbit  (Talk | contribs)  (Created page with 'ในบทนี้เราจะมาเรียนการสร้างประโยคปฏิเสธในภาษาเกาหลีกัน  โดยท...')  | 
				Piggyrabbit  (Talk | contribs)   | 
				||
| (One intermediate revision by one user not shown) | |||
| Line 1: | Line 1: | ||
ในบทนี้เราจะมาเรียนการสร้างประโยคปฏิเสธในภาษาเกาหลีกัน  | ในบทนี้เราจะมาเรียนการสร้างประโยคปฏิเสธในภาษาเกาหลีกัน  | ||
| − | โดยทั่วไปแล้ว การสร้างประโยคปฏิเสธในภาษาเกาหลีมีสองแบบหลัก ๆ    | + | == โดยทั่วไปแล้ว การสร้างประโยคปฏิเสธในภาษาเกาหลีมีสองแบบหลัก ๆ ==  | 
| − | 1. เติม 안 [an] หน้าคำกริยา  | + | 1. เติม 안 [an] หน้าคำกริยา<br />  | 
2. ใช้คำกริยาปฏิเสธลงท้าย 지 않다 [ ji an-ta]  | 2. ใช้คำกริยาปฏิเสธลงท้าย 지 않다 [ ji an-ta]  | ||
| − | แบบที่หนึ่งนั้นง่ายและใช้ในการสนทนาปกติมากกว่า ส่วนแบบที่สองนั้นค่อนข้างจะเป็นทางการแต่ก็ไม่จำเป็นว่าต้องใข้ในสถานการณ์ที่เป็นทางการเท่านั้น  | + | แบบที่หนึ่งนั้นง่ายและใช้ในการสนทนาปกติมากกว่า ส่วนแบบที่สองนั้นค่อนข้างจะเป็นทางการแต่ก็ไม่จำเป็นว่าต้องใข้ในสถานการณ์ที่เป็นทางการเท่านั้น<br />  | 
| − | + | ||
| − | + | '''หากเราจะใช้แบบที่หนึ่งโดยการเติม 안 [an] ไว้หน้าคำกริยา''' ก็จะง่ายกว่าแบบที่สองเพราะว่า เราไม่ต้องกังวลถึงกาลที่เราต้องใช้ คำว่า 안 [an] ไม่ทำให้กาลเปลี่ยนไป  | |
| − | + | ||
| − | + | ||
| − | + | ||
| − | + | ||
| − | 버리다 [beo-ri-da] = ขว้างทิ้ง  | + | '''ตัวอย่าง'''  | 
| − | 그거 버렸어요. [geu-geo beo-ryeo-sseo-yo]  ฉันขว้างอันนั้นทิ้งไปแล้ว  | + | *가다 [ga-da] = ไป  | 
| − | 그거 안 버렸어요. [geu-geo an beo-ryeo-sseo-yo] ฉันไม่ได้ขว้างอันนั้นทิ้งไป  | + | *집에 가요. [ jib-e ga-yo]  ฉันกำลังจะกลับบ้าน ฉันกลับบ้าน  | 
| − | 그거 아직 안 버렸어요. [geu-geo a-jik an beo-ryeo-sseo-yo]  ฉันยังไม่ได้ขว้างอันนั้นทิ้งไป  | + | *집에 안 가요. [ jib-e an ga-yo] ฉันไม่ได้กำลังจะกลับบ้าน ฉันไม่กลับบ้าน  | 
| + | *집에 안 가요? [ jib-e an ga-yo?] เธอไม่กลับบ้านเหรอ  | ||
| + | |||
| + | *버리다 [beo-ri-da] = ขว้างทิ้ง  | ||
| + | *그거 버렸어요. [geu-geo beo-ryeo-sseo-yo]  ฉันขว้างอันนั้นทิ้งไปแล้ว  | ||
| + | *그거 안 버렸어요. [geu-geo an beo-ryeo-sseo-yo] ฉันไม่ได้ขว้างอันนั้นทิ้งไป  | ||
| + | *그거 아직 안 버렸어요. [geu-geo a-jik an beo-ryeo-sseo-yo]  ฉันยังไม่ได้ขว้างอันนั้นทิ้งไป  | ||
| + | |||
| + | '''ตัวอย่างการใช้แบบที่สอง (เติม 지 않다 [ ji an-ta])'''  | ||
| + | |||
| + | 지 않다 [ ji anta] เป็นรูปดั้งเดิม เราต้องผันเพื่อแสดงกาล  | ||
| + | |||
| + | ปัจจุบันกาล  지 않아요 [ ji a-na-yo]<br />  | ||
| + | อดีตกาล      지 않았어요 [ ji a-na-sseo-yo]  | ||
| + | |||
| + | เราสามารถใช้กฏการผันกริยาเหมือนๆ กับคำกริยาอื่น ๆ<br />  | ||
| + | *가다 [ga-da] = ไป  | ||
| + | *가지 않다 [ga-ji an-ta] = ไม่ไป  | ||
| + | *가지 않아요 [ga-ji a-na-yo] = ฉันไม่ไป  | ||
| + | *가지 않았어요 [ga-ji a-na-sseo-yo] = ฉันไม่ได้ไป  | ||
| + | |||
| + | *버리다 [beo-ri-da] = ขว้างทิ้ง  | ||
| + | *버리지 않다 [beo-ri-ji an-ta] = ไม่ได้ขว้างทิ้ง  | ||
| + | *버리지 않아요 [beo-ri-ji a-na-yo] = ฉันไม่ได้ขว้างทิ้ง  | ||
| + | *버리지 않았어요 [beo-ri-ji a-na-sseo-yo] ฉันไม่ได้ขว้างทิ้งไป  | ||
| + | |||
| + | '''ตัวอย่างบทสนทนาสั้น ๆ'''   | ||
| + | |||
| + | A: 아파요? [a-pa-yo?] = เจ็บไหม<br />  | ||
| + | B: 안 아파요. [an a-pa-yo] = ไม่เจ็บ<br />  | ||
| + | A: 안 아파요? 진짜 안 아파요? [an a-pa-yo? jin-jja an a-pa-yo?] <br />  | ||
| + |     = ไม่เจ็บเหรอ ไม่เจ็บจริงๆ นะ<br />  | ||
| + | B: 안 아파요. [an a-pa-yo] = ไม่เจ็บ  | ||
| + | |||
| + | A: 안 먹어요? [an meo-geo-yo?] = เธอไม่ไปกินข้าวเหรอ<br />  | ||
| + | B: 안 먹어요! [an meo-geo-yo!] = ฉันไม่กินอ่ะ<br />  | ||
| + | A: 정말 안 먹어요? 맛있어요! [ jeong-mal an meo-geo-yo? ma-si-sseo-yo] <br />  | ||
| + |     = จะไม่กินจริงๆ เหรอ อร่อยนะ<br />  | ||
| + | B: 안 먹어요. 배 안 고파요. [an meo-geo-yo. bae an go-pa-yo] <br />  | ||
| + |     = ไม่กินอ่ะ ไม่หิว  | ||
| + | |||
| + | A: 이거 매워요? [i-geo mae-wo-yo?] = อันนี้เผ็ดไหม<br />  | ||
| + | B: 아니요. 안 매워요. [a-ni-yo. an mae-wo-yo] = ไม่ ไม่เผ็ด<br />  | ||
| + | A: 진짜 안 매워요? [ jin-jja an mae-wo-yo?] = ไม่เผ็ดจริงๆ เหรอ<br />  | ||
| + | B: 네. 안 매워요. [ne. an mae-wo-yo] = ไม่ ไม่เผ็ดเลย  | ||
Latest revision as of 17:44, 21 January 2012
ในบทนี้เราจะมาเรียนการสร้างประโยคปฏิเสธในภาษาเกาหลีกัน
โดยทั่วไปแล้ว การสร้างประโยคปฏิเสธในภาษาเกาหลีมีสองแบบหลัก ๆ
1. เติม 안 [an] หน้าคำกริยา
2. ใช้คำกริยาปฏิเสธลงท้าย 지 않다 [ ji an-ta]
แบบที่หนึ่งนั้นง่ายและใช้ในการสนทนาปกติมากกว่า ส่วนแบบที่สองนั้นค่อนข้างจะเป็นทางการแต่ก็ไม่จำเป็นว่าต้องใข้ในสถานการณ์ที่เป็นทางการเท่านั้น
หากเราจะใช้แบบที่หนึ่งโดยการเติม 안 [an] ไว้หน้าคำกริยา ก็จะง่ายกว่าแบบที่สองเพราะว่า เราไม่ต้องกังวลถึงกาลที่เราต้องใช้ คำว่า 안 [an] ไม่ทำให้กาลเปลี่ยนไป
ตัวอย่าง
- 가다 [ga-da] = ไป
 - 집에 가요. [ jib-e ga-yo] ฉันกำลังจะกลับบ้าน ฉันกลับบ้าน
 - 집에 안 가요. [ jib-e an ga-yo] ฉันไม่ได้กำลังจะกลับบ้าน ฉันไม่กลับบ้าน
 - 집에 안 가요? [ jib-e an ga-yo?] เธอไม่กลับบ้านเหรอ
 
- 버리다 [beo-ri-da] = ขว้างทิ้ง
 - 그거 버렸어요. [geu-geo beo-ryeo-sseo-yo] ฉันขว้างอันนั้นทิ้งไปแล้ว
 - 그거 안 버렸어요. [geu-geo an beo-ryeo-sseo-yo] ฉันไม่ได้ขว้างอันนั้นทิ้งไป
 - 그거 아직 안 버렸어요. [geu-geo a-jik an beo-ryeo-sseo-yo] ฉันยังไม่ได้ขว้างอันนั้นทิ้งไป
 
ตัวอย่างการใช้แบบที่สอง (เติม 지 않다 [ ji an-ta])
지 않다 [ ji anta] เป็นรูปดั้งเดิม เราต้องผันเพื่อแสดงกาล
ปัจจุบันกาล  지 않아요 [ ji a-na-yo]
อดีตกาล      지 않았어요 [ ji a-na-sseo-yo]
เราสามารถใช้กฏการผันกริยาเหมือนๆ กับคำกริยาอื่น ๆ
- 가다 [ga-da] = ไป
 - 가지 않다 [ga-ji an-ta] = ไม่ไป
 - 가지 않아요 [ga-ji a-na-yo] = ฉันไม่ไป
 - 가지 않았어요 [ga-ji a-na-sseo-yo] = ฉันไม่ได้ไป
 
- 버리다 [beo-ri-da] = ขว้างทิ้ง
 - 버리지 않다 [beo-ri-ji an-ta] = ไม่ได้ขว้างทิ้ง
 - 버리지 않아요 [beo-ri-ji a-na-yo] = ฉันไม่ได้ขว้างทิ้ง
 - 버리지 않았어요 [beo-ri-ji a-na-sseo-yo] ฉันไม่ได้ขว้างทิ้งไป
 
ตัวอย่างบทสนทนาสั้น ๆ
A: 아파요? [a-pa-yo?] = เจ็บไหม
B: 안 아파요. [an a-pa-yo] = ไม่เจ็บ
A: 안 아파요? 진짜 안 아파요? [an a-pa-yo? jin-jja an a-pa-yo?] 
= ไม่เจ็บเหรอ ไม่เจ็บจริงๆ นะ
B: 안 아파요. [an a-pa-yo] = ไม่เจ็บ
A: 안 먹어요? [an meo-geo-yo?] = เธอไม่ไปกินข้าวเหรอ
B: 안 먹어요! [an meo-geo-yo!] = ฉันไม่กินอ่ะ
A: 정말 안 먹어요? 맛있어요! [ jeong-mal an meo-geo-yo? ma-si-sseo-yo] 
= จะไม่กินจริงๆ เหรอ อร่อยนะ
B: 안 먹어요. 배 안 고파요. [an meo-geo-yo. bae an go-pa-yo] 
= ไม่กินอ่ะ ไม่หิว
A: 이거 매워요? [i-geo mae-wo-yo?] = อันนี้เผ็ดไหม
B: 아니요. 안 매워요. [a-ni-yo. an mae-wo-yo] = ไม่ ไม่เผ็ด
A: 진짜 안 매워요? [ jin-jja an mae-wo-yo?] = ไม่เผ็ดจริงๆ เหรอ
B: 네. 안 매워요. [ne. an mae-wo-yo] = ไม่ ไม่เผ็ดเลย