Difference between revisions of "TTMIK ระดับ 1 ระดับ1 บทที่ 17"
From Korean Wiki Project
Piggyrabbit (Talk | contribs) (Created page with 'บทที่แล้ว เราเรียนวิธีการผันกริยาให้อยู่ในรูปปัจจุบันกาลแบบพ...') |
Piggyrabbit (Talk | contribs) |
||
Line 4: | Line 4: | ||
กริยาที่ลงท้ายด้วยเสียงสระอื่นๆ นอกจาก ㅗ หรือㅏ ให้ตามด้วย 어요 [eo-yo] | กริยาที่ลงท้ายด้วยเสียงสระอื่นๆ นอกจาก ㅗ หรือㅏ ให้ตามด้วย 어요 [eo-yo] | ||
กริยาที่ลงท้ายด้วย 하 ให้ตามด้วย 여요 [yeo-yo] | กริยาที่ลงท้ายด้วย 하 ให้ตามด้วย 여요 [yeo-yo] | ||
+ | |||
+ | คราวนี้ถึงเวลาที่เราจะมาผันกริยาให้อยู่ในรูปอดีตกาลกัน | ||
+ | เมื่อเราเข้าใจการผันกริยาให้อยู่ในรูปปัจจุบันกาลแล้ว การจะผันกริยาให้อยู่ในรูปอดีตกาลก็ง่ายแล้ว กฏการใช้ก็คล้ายกับการผันให้อยู่ในรูปปัจจุบันกาล | ||
+ | การลงท้ายกริยาในรูปอดีตกาลมีดังต่อไปนี้ | ||
+ | |||
+ | *았어요 [a-sseo-yo] | ||
+ | *었어요 [eo-sseo-yo] | ||
+ | *였어요 [yeo-sseo-yo] |
Revision as of 14:43, 7 January 2012
บทที่แล้ว เราเรียนวิธีการผันกริยาให้อยู่ในรูปปัจจุบันกาลแบบพื้นฐานกันไปแล้ว จำได้หรือไม่ว่าทำอย่างไร
กริยาที่ลงท้ายด้วยเสียงสระ ㅗ [o] หรือ ㅏ [a] ให้ตามด้วย 아요 [a-yo] กริยาที่ลงท้ายด้วยเสียงสระอื่นๆ นอกจาก ㅗ หรือㅏ ให้ตามด้วย 어요 [eo-yo] กริยาที่ลงท้ายด้วย 하 ให้ตามด้วย 여요 [yeo-yo]
คราวนี้ถึงเวลาที่เราจะมาผันกริยาให้อยู่ในรูปอดีตกาลกัน เมื่อเราเข้าใจการผันกริยาให้อยู่ในรูปปัจจุบันกาลแล้ว การจะผันกริยาให้อยู่ในรูปอดีตกาลก็ง่ายแล้ว กฏการใช้ก็คล้ายกับการผันให้อยู่ในรูปปัจจุบันกาล การลงท้ายกริยาในรูปอดีตกาลมีดังต่อไปนี้
- 았어요 [a-sseo-yo]
- 었어요 [eo-sseo-yo]
- 였어요 [yeo-sseo-yo]