Difference between revisions of "TTMIK ระดับ 1 ระดับ1 บทที่ 17"
Piggyrabbit (Talk | contribs) |
Piggyrabbit (Talk | contribs) |
||
Line 1: | Line 1: | ||
บทที่แล้ว เราเรียนวิธีการผันกริยาให้อยู่ในรูปปัจจุบันกาลแบบพื้นฐานกันไปแล้ว จำได้หรือไม่ว่าทำอย่างไร | บทที่แล้ว เราเรียนวิธีการผันกริยาให้อยู่ในรูปปัจจุบันกาลแบบพื้นฐานกันไปแล้ว จำได้หรือไม่ว่าทำอย่างไร | ||
− | กริยาที่ลงท้ายด้วยเสียงสระ ㅗ [o] หรือ ㅏ [a] ให้ตามด้วย 아요 [a-yo] | + | *กริยาที่ลงท้ายด้วยเสียงสระ ㅗ [o] หรือ ㅏ [a] ให้ตามด้วย 아요 [a-yo] |
− | กริยาที่ลงท้ายด้วยเสียงสระอื่นๆ นอกจาก ㅗ หรือㅏ ให้ตามด้วย 어요 [eo-yo] | + | *กริยาที่ลงท้ายด้วยเสียงสระอื่นๆ นอกจาก ㅗ หรือㅏ ให้ตามด้วย 어요 [eo-yo] |
− | กริยาที่ลงท้ายด้วย 하 ให้ตามด้วย 여요 [yeo-yo] | + | *กริยาที่ลงท้ายด้วย 하 ให้ตามด้วย 여요 [yeo-yo] |
− | คราวนี้ถึงเวลาที่เราจะมาผันกริยาให้อยู่ในรูปอดีตกาลกัน | + | คราวนี้ถึงเวลาที่เราจะมาผันกริยาให้อยู่ในรูปอดีตกาลกัน<br /> |
เมื่อเราเข้าใจการผันกริยาให้อยู่ในรูปปัจจุบันกาลแล้ว การจะผันกริยาให้อยู่ในรูปอดีตกาลก็ง่ายแล้ว กฏการใช้ก็คล้ายกับการผันให้อยู่ในรูปปัจจุบันกาล | เมื่อเราเข้าใจการผันกริยาให้อยู่ในรูปปัจจุบันกาลแล้ว การจะผันกริยาให้อยู่ในรูปอดีตกาลก็ง่ายแล้ว กฏการใช้ก็คล้ายกับการผันให้อยู่ในรูปปัจจุบันกาล | ||
− | การลงท้ายกริยาในรูปอดีตกาลมีดังต่อไปนี้ | + | |
+ | == การลงท้ายกริยาในรูปอดีตกาลมีดังต่อไปนี้ == | ||
*았어요 [a-sseo-yo] | *았어요 [a-sseo-yo] | ||
Line 15: | Line 16: | ||
เราจะเติมคำข้างต้นลงไปท้ายคำกริยา หรือจะคิดง่ายๆ ก็ได้ว่าเราแทนที่ “요” (รูปปัจจุบันกาล) ด้วย -ㅆ어요 [ss-eo-yo] (รูปอดีตกาล) | เราจะเติมคำข้างต้นลงไปท้ายคำกริยา หรือจะคิดง่ายๆ ก็ได้ว่าเราแทนที่ “요” (รูปปัจจุบันกาล) ด้วย -ㅆ어요 [ss-eo-yo] (รูปอดีตกาล) | ||
− | กริยาที่ลงท้ายด้วยเสียงสระ ㅗ [o] หรือ ㅏ [a] ให้ตามด้วย 았어요 [a-sseo-yo] | + | *กริยาที่ลงท้ายด้วยเสียงสระ ㅗ [o] หรือ ㅏ [a] ให้ตามด้วย 았어요 [a-sseo-yo] |
− | กริยาที่ลงท้ายด้วยเสียงสระอื่นๆ นอกจาก ㅗ หรือㅏ ให้ตามด้วย 었어요 [eo-sseo-yo] | + | *กริยาที่ลงท้ายด้วยเสียงสระอื่นๆ นอกจาก ㅗ หรือㅏ ให้ตามด้วย 었어요 [eo-sseo-yo] |
− | กริยาที่ลงท้ายด้วย 하 ให้ตามด้วย 였어요 [yeo-sse-yo] | + | *กริยาที่ลงท้ายด้วย 하 ให้ตามด้วย 였어요 [yeo-sse-yo] |
− | ลองมาดูตัวอย่าง | + | '''ลองมาดูตัวอย่าง''' |
− | 사다 [sa-da] = ซื้อ | + | 사다 [sa-da] = ซื้อ<br /> |
− | รากศัพท์ = 사 [sa] | + | รากศัพท์ = 사 [sa]<br /> |
** เราจะตัดคำสุดท้าย 다 [da] ออกจากทุก ๆ คำกริยาเพื่อจะได้รากศัพท์ของคำกริยานั้น ๆ | ** เราจะตัดคำสุดท้าย 다 [da] ออกจากทุก ๆ คำกริยาเพื่อจะได้รากศัพท์ของคำกริยานั้น ๆ | ||
− | อดีตกาล | + | <u>อดีตกาล</u><br /> |
− | = 사 + 았어요 [sa + a-sseo-yo] | + | = 사 + 았어요 [sa + a-sseo-yo]<br /> |
− | = 샀어요 [sa-sseo-yo] | + | = 샀어요 [sa-sseo-yo]<br /> |
= ฉันเคยซื้อ เธอได้ซื้อแล้ว เขาได้ซื้อแล้ว พวกเขาเคยซื้อ | = ฉันเคยซื้อ เธอได้ซื้อแล้ว เขาได้ซื้อแล้ว พวกเขาเคยซื้อ | ||
− | 오다 [o-da] = มา | + | 오다 [o-da] = มา<br /> |
− | รากศัพท์ = 오 [o] | + | รากศัพท์ = 오 [o]<br /> |
− | อดีตกาล | + | <u>อดีตกาล</u><br /> |
− | = 오 + 았어요 [o + a-sseo-yo] | + | = 오 + 았어요 [o + a-sseo-yo]<br /> |
− | = 왔어요 [wa-sseo-yo] | + | = 왔어요 [wa-sseo-yo]<br /> |
= ฉันมาแล้ว เธอเคยมา เขามาแล้ว | = ฉันมาแล้ว เธอเคยมา เขามาแล้ว | ||
− | 적다 [ jeok-da] = เขียน | + | 적다 [ jeok-da] = เขียน<br /> |
− | รากศัพท์ = 적 [ jeok] | + | รากศัพท์ = 적 [ jeok]<br /> |
− | อดีตกาล | + | <u>อดีตกาล</u><br /> |
− | = 적 + 었어요 [ jeok + eo-sseo-yo] | + | = 적 + 었어요 [ jeok + eo-sseo-yo]<br /> |
− | = 적었어요 [ jeo-geo-sseo-yo] | + | = 적었어요 [ jeo-geo-sseo-yo]<br /> |
= ฉันเขียนแล้ว เธอเขียนเสร็จแล้ว พวกเขาได้เขียนแล้ว | = ฉันเขียนแล้ว เธอเขียนเสร็จแล้ว พวกเขาได้เขียนแล้ว | ||
− | 하다 [ha-da] = ทำ | + | 하다 [ha-da] = ทำ<br /> |
− | รากศัพท์ = 하 [ha] | + | รากศัพท์ = 하 [ha]<br /> |
− | อดีตกาล | + | <u>อดีตกาล</u><br /> |
− | = 하 + 였어요 [ha + yeo-sseo+yo] | + | = 하 + 였어요 [ha + yeo-sseo+yo]<br /> |
− | = 했어요 [hae-sseo-yo] | + | = 했어요 [hae-sseo-yo]<br /> |
= ฉันทำแล้ว เขาทำไปแล้ว เธอได้ทำแล้ว | = ฉันทำแล้ว เขาทำไปแล้ว เธอได้ทำแล้ว | ||
− | ตัวอย่างกริยาอื่นๆ ทั้งในรูปปัจจุบันกาลและอดีตกาล | + | '''ตัวอย่างกริยาอื่นๆ ทั้งในรูปปัจจุบันกาลและอดีตกาล''' |
− | 1.먹다 [meok-da] (รากศัพท์ = 먹 [meok]) = กิน | + | 1.먹다 [meok-da] (รากศัพท์ = 먹 [meok]) = กิน<br /> |
− | ปัจจุบันกาล: 먹어요 [meo-geo-yo] | + | ปัจจุบันกาล: 먹어요 [meo-geo-yo]<br /> |
อดีตกาล: 먹었어요 [meo-geo-sseo-yo] | อดีตกาล: 먹었어요 [meo-geo-sseo-yo] | ||
− | 2.잡다 [ jap-da] (รากศัพท์ = 잡 [ jap]) = จับ | + | 2.잡다 [ jap-da] (รากศัพท์ = 잡 [ jap]) = จับ<br /> |
− | ปัจจุบันกาล: 잡아요 [ ja-ba-yo] | + | ปัจจุบันกาล: 잡아요 [ ja-ba-yo]<br /> |
อดีตกาล: 잡았어요 [ ja-ba-sseo-yo] | อดีตกาล: 잡았어요 [ ja-ba-sseo-yo] | ||
− | 3. 팔다 [pal-da] (รากศัพท์ = 팔 [pal]) = ขาย | + | 3. 팔다 [pal-da] (รากศัพท์ = 팔 [pal]) = ขาย<br /> |
− | ปัจจุบันกาล: 팔아요 [pa-ra-yo] | + | ปัจจุบันกาล: 팔아요 [pa-ra-yo]<br /> |
− | อดีตกาล: 팔았어요 [pa-ra-sseo-yo] | + | อดีตกาล: 팔았어요 [pa-ra-sseo-yo] |
− | 4.놀다 [nol-da] (รากศัพท์ = 놀 [nol]) = เล่น สังสรรค์ | + | 4.놀다 [nol-da] (รากศัพท์ = 놀 [nol]) = เล่น สังสรรค์<br /> |
− | ปัจจุบันกาล: 놀아요 [no-ra-yo] | + | ปัจจุบันกาล: 놀아요 [no-ra-yo]<br /> |
อดีตกาล: 놀았어요 [no-ra-sseo-yo] | อดีตกาล: 놀았어요 [no-ra-sseo-yo] | ||
+ | |||
+ | 5. 쓰다 [sseu-da] (รากศัพท์ = 쓰 [sseu]) = เขียน ใช้<br /> | ||
+ | ปัจจุบันกาล: 써요 [sseo-yo] (ไม่ใช้่ 쓰어요) <br /> | ||
+ | อดีตกาล: 썼어요 [sseo-sseo-yo] | ||
+ | |||
+ | 6. 기다리다 [gi-da-ri-da] (รากศัพท์ = 기다리 [gi-da-ri]) = คอย<br /> | ||
+ | ปัจจุบันกาล: 기다려요 [gi-da-ryeo-yo] (ไม่ใช่ 기다리어요)<br /> | ||
+ | อดีตกาล: 기다렸어요 [gi-da-ryeo-sseo-yo] | ||
+ | |||
+ | 7. 이상하다 [i-sang-ha-da] (รากศัพท์ = 이상하 [i-sang-ha]) = แปลกไป<br /> | ||
+ | ปัจจุบันกาล: 이상해요 [i-sang-hae-yo) (ไม่ใช่ 이상하여요) <br /> | ||
+ | อดีตกาล: 이상했어요 [i-sang-hae-sseo-yo] | ||
+ | |||
+ | 8. 멋있다 [meo-sit-da] (รากศัพท์ = 멋있 [meo-sit]) = เจ๋ง<br /> | ||
+ | ปัจจุบันกาล: 멋있어요 [meo-si-sseo-yo] <br /> | ||
+ | อดีตกาล: 멋있었어요 [meo-si-sseo-sseo-yo] |
Revision as of 15:01, 7 January 2012
บทที่แล้ว เราเรียนวิธีการผันกริยาให้อยู่ในรูปปัจจุบันกาลแบบพื้นฐานกันไปแล้ว จำได้หรือไม่ว่าทำอย่างไร
- กริยาที่ลงท้ายด้วยเสียงสระ ㅗ [o] หรือ ㅏ [a] ให้ตามด้วย 아요 [a-yo]
- กริยาที่ลงท้ายด้วยเสียงสระอื่นๆ นอกจาก ㅗ หรือㅏ ให้ตามด้วย 어요 [eo-yo]
- กริยาที่ลงท้ายด้วย 하 ให้ตามด้วย 여요 [yeo-yo]
คราวนี้ถึงเวลาที่เราจะมาผันกริยาให้อยู่ในรูปอดีตกาลกัน
เมื่อเราเข้าใจการผันกริยาให้อยู่ในรูปปัจจุบันกาลแล้ว การจะผันกริยาให้อยู่ในรูปอดีตกาลก็ง่ายแล้ว กฏการใช้ก็คล้ายกับการผันให้อยู่ในรูปปัจจุบันกาล
การลงท้ายกริยาในรูปอดีตกาลมีดังต่อไปนี้
- 았어요 [a-sseo-yo]
- 었어요 [eo-sseo-yo]
- 였어요 [yeo-sseo-yo]
เราจะเติมคำข้างต้นลงไปท้ายคำกริยา หรือจะคิดง่ายๆ ก็ได้ว่าเราแทนที่ “요” (รูปปัจจุบันกาล) ด้วย -ㅆ어요 [ss-eo-yo] (รูปอดีตกาล)
- กริยาที่ลงท้ายด้วยเสียงสระ ㅗ [o] หรือ ㅏ [a] ให้ตามด้วย 았어요 [a-sseo-yo]
- กริยาที่ลงท้ายด้วยเสียงสระอื่นๆ นอกจาก ㅗ หรือㅏ ให้ตามด้วย 었어요 [eo-sseo-yo]
- กริยาที่ลงท้ายด้วย 하 ให้ตามด้วย 였어요 [yeo-sse-yo]
ลองมาดูตัวอย่าง
사다 [sa-da] = ซื้อ
รากศัพท์ = 사 [sa]
- เราจะตัดคำสุดท้าย 다 [da] ออกจากทุก ๆ คำกริยาเพื่อจะได้รากศัพท์ของคำกริยานั้น ๆ
อดีตกาล
= 사 + 았어요 [sa + a-sseo-yo]
= 샀어요 [sa-sseo-yo]
= ฉันเคยซื้อ เธอได้ซื้อแล้ว เขาได้ซื้อแล้ว พวกเขาเคยซื้อ
오다 [o-da] = มา
รากศัพท์ = 오 [o]
อดีตกาล
= 오 + 았어요 [o + a-sseo-yo]
= 왔어요 [wa-sseo-yo]
= ฉันมาแล้ว เธอเคยมา เขามาแล้ว
적다 [ jeok-da] = เขียน
รากศัพท์ = 적 [ jeok]
อดีตกาล
= 적 + 었어요 [ jeok + eo-sseo-yo]
= 적었어요 [ jeo-geo-sseo-yo]
= ฉันเขียนแล้ว เธอเขียนเสร็จแล้ว พวกเขาได้เขียนแล้ว
하다 [ha-da] = ทำ
รากศัพท์ = 하 [ha]
อดีตกาล
= 하 + 였어요 [ha + yeo-sseo+yo]
= 했어요 [hae-sseo-yo]
= ฉันทำแล้ว เขาทำไปแล้ว เธอได้ทำแล้ว
ตัวอย่างกริยาอื่นๆ ทั้งในรูปปัจจุบันกาลและอดีตกาล
1.먹다 [meok-da] (รากศัพท์ = 먹 [meok]) = กิน
ปัจจุบันกาล: 먹어요 [meo-geo-yo]
อดีตกาล: 먹었어요 [meo-geo-sseo-yo]
2.잡다 [ jap-da] (รากศัพท์ = 잡 [ jap]) = จับ
ปัจจุบันกาล: 잡아요 [ ja-ba-yo]
อดีตกาล: 잡았어요 [ ja-ba-sseo-yo]
3. 팔다 [pal-da] (รากศัพท์ = 팔 [pal]) = ขาย
ปัจจุบันกาล: 팔아요 [pa-ra-yo]
อดีตกาล: 팔았어요 [pa-ra-sseo-yo]
4.놀다 [nol-da] (รากศัพท์ = 놀 [nol]) = เล่น สังสรรค์
ปัจจุบันกาล: 놀아요 [no-ra-yo]
อดีตกาล: 놀았어요 [no-ra-sseo-yo]
5. 쓰다 [sseu-da] (รากศัพท์ = 쓰 [sseu]) = เขียน ใช้
ปัจจุบันกาล: 써요 [sseo-yo] (ไม่ใช้่ 쓰어요)
อดีตกาล: 썼어요 [sseo-sseo-yo]
6. 기다리다 [gi-da-ri-da] (รากศัพท์ = 기다리 [gi-da-ri]) = คอย
ปัจจุบันกาล: 기다려요 [gi-da-ryeo-yo] (ไม่ใช่ 기다리어요)
อดีตกาล: 기다렸어요 [gi-da-ryeo-sseo-yo]
7. 이상하다 [i-sang-ha-da] (รากศัพท์ = 이상하 [i-sang-ha]) = แปลกไป
ปัจจุบันกาล: 이상해요 [i-sang-hae-yo) (ไม่ใช่ 이상하여요)
อดีตกาล: 이상했어요 [i-sang-hae-sseo-yo]
8. 멋있다 [meo-sit-da] (รากศัพท์ = 멋있 [meo-sit]) = เจ๋ง
ปัจจุบันกาล: 멋있어요 [meo-si-sseo-yo]
อดีตกาล: 멋있었어요 [meo-si-sseo-sseo-yo]